วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

บทอาขยานที่ใช้ในโรงเรียนวัดคลองโพธิ์


if (wgNotice != '') document.writeln(wgNotice);
บทอาขยาน
บทอาขยาน แบ่งออกเป็น ๓ ประเภทคือ บทหลัก บทรอง และ บทอิสระ
บทอาขยานต่อไปนี้รวบรวมและเรียงลำดับโดย กรมวิชาการ ๒๕๔๒
คัดเลือกโดย คณะกรรมการคัดเลือกอาขยานภาษาไทยสำหรับนักเรียน ในคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ วก ๓๗๒/ ๒๕๔๒
กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้นักเรียนทั่วประเทศท่องจำเหมือนกัน
ระดับประถมศึกษา
บทอาขยาน
ผู้แต่ง
หมายเหตุ
* แมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟัน
ทัด เปรียญ
ร้องลำแขกบรเทศ ดอกสร้อยสุภาษิต
* รักเมืองไทย
นภาลัย สุวรรณธาดา

* ไก่แจ้
หม่อมเจ้าประภากร
ร้องลำนางนาค ดอกสร้อยสุภาษิต
* รักษาป่า


* เด็กน้อย

ร้องลำฝรั่งรำเท้า ดอกสร้อยสุภาษิต
* วิชาหนาเจ้า
มีแต่โบราณ
ประถม ก กา ฉบับหอสมุดแห่งชาติ
* ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา
ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา
บทประพันธ์อธิบายสุภาษิต
* พฤษภกาสร
สมเด็จพระสมณเจ้ากรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส

* สยามานุสสติ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

* ตนเป็นที่พึ่งแก่ตน
เพิ่ม สวัสดิ์วรรณกิจ
บทประพันธ์อธิบายสุภาษิต
* วิชาเหมือนสินค้า
เจษฎาจารย์ ฟ.ฮีแลร์
ดรุณศึกษา เล่ม ๓
* ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ
พระยาอุปกิตศิลปสาร

* ผู้ชนะ
บุญเสริม แก้วพรหม

* เป็นมนุษย์หรือเป็นคน
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
หัวข้อธรรมในคำกลอน
* โคลงโลกนิติ
สมเด็จฯ กรมพระยาเดชาดิศร
ศิลาจารึกวัดพระเชตุพนฯ ๓ บทคือ ๖๘ เสียสินสงวนศักดิ์ไว้ฯ, ๑๑๔ ความรู้ดูยิ่งล้ำฯ, ๕๕ เว้นวิจารณ์ว่างเว้นฯ
บทรอง
สถานศึกษาเลือกใช้โดยให้ตรงกับหลักเกณฑ์การคัดเลือกบทอาขยาน บทรองต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่แนะนำโดย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ
ระดับประถมศึกษา
บทอาขยาน
ผู้แต่ง
หมายเหตุ
* กาเหว่า
มีแต่โบราณ เพลงกล่อมเด็กภาคกลาง
บทกลอนกล่อมเด็ก ฉบับหอสมุดวชิรญาณ
* เจ้าดวงมาลา
มีแต่โบราณ เพลงพื้นบ้านภาคใต้
บทเชิญดอกไม้
* ไทยรวมกำลังตั้งมั่น
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระร่วง
* ปากใดเกินบ่มีความฮู้

ประมวลธรรมยอดคำสอน ภาษาไทยกลางและภาษาไทยอีสาน
* ฝนตกแดดออก
ฐะปะนีย์ นาครทรรพ

* เพลงชาติ
นภาลัย สุวรรณธาดา

* เพลงยาวเจ้าอิศรญาณ
อิศรญาณ
สุภาษิตอิศรญาณ
* มาลี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เงาะป่า
* อนึ่งเวลากิน

วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ ประเภทคำสอน
* อย่านั่งใกล้ถุงเงินคำ

วรรณกรรมล้านนา ปู่เจ้าสอนหลาน
บทอาขยาน
ผู้แต่ง
หมายเหตุ
* ค่าวภาษิต
พระครูชัยศีลวิมล วัดเกตการาม
ล้านนาภาษิต ฉบับยุทธ เดชคำรณ
* โคลงกระทู้สุภาษิต
หลวงพัฒนพงษ์ภักดี (ทิม สุขยางค์)

* ณ ยามสายัณห์
สุภร ผลชีวิน

* ดอกไม้จะบาน
จิระนันท์ พิตรปรีชา

* นมัสการพระพุทธคุณ · นมัสการพระธรรมคุณ · นมัสการพระสังฆคุณ
พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)

* บทท่ารำเบื้องต้น
ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สภาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช

* ฝั่งทะเลตะวันตก
พนม นันทพฤกษ์

* วรรณกรรมคำสอนอีสานกาพย์ปู่สอนหลาน
มีแต่โบราณ

* ไหมแท้ที่แม่ทอ
ไพวรินทร์ ขาวงาม

* อยู่เพื่ออะไร
อุชเชนี

* เขียนแผ่นดิน
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

บทอาขยาน
ผู้แต่ง
หมายเหตุ
* ลูกหลานคนดี
รัชนี ศรีไพวรรณ

* สักวาดาวจรเข้
พระสุนทรโวหาร (ภู่)

ฯลฯ

บทอิสระ
ผู้สอน ผู้เรียนหรือผู้ปกครองเลือกสรรหรือแต่งขึ้นเอง โดยตรงกับหลักเกณฑ์การคัดเลือกบทอาขยาน ส่วนใหญ่มาจาก หนังสือประพันธ์อาขยานนอกหนังสือเรียน ซึ่งบางเล่มจากหนังสือนี้เป็นต้นฉบับให้ฉบับกรมวิชาการนำไปใช้เป็นบทหลักและบทรอง ๒๕๔๒
ดอกสร้อยสุภาษิต
จากฉบับ ดอกสร้อยแสนรัก
บทอาขยาน
ผู้แต่ง
หมายเหตุ
( ↑ หมายถึง มีในบทหลักหรือบทรอง )


* ↑ เด็กน้อย

ร้องลำฝรั่งรำเท้า
* ↑ แมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟัน
ทัด เปรียญ
ร้องลำแขกบรเทศ
* ตั้งไข่ล้มต้มไข่กิน
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ร้องลำลมพัดชายเขา
* นกขมิ้นเหลืองอ่อน
หลวงมลโยธานุโยค (นก)
ร้องลำพัดชา
* จิงโจ้โล้สำเภา
หลวงวิจิตรวาทการ
ร้องลำมอญรำดาบ
* ซักส้าวมะนาวโตงเตง

ร้องลำสารถีชักรถ
* ตุ๊ดตู่อยู่ในรูกระบอก
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ร้องลำวิลันดาโอด
* นกกิ้งโครงเข้าโพรงนกเอี้ยง
พระยาพินิจสารา (ทิม)
ร้องลำนกกระจอกทอง
* เรือเล่นสามเส้นสิบห้าวา
ทัด เปรียญ
ร้องลำตวงพระธาตุ
* นกเอี้ยงเลี้ยงควายเฒ่า
หลวงวิจิตรวาทการ
ร้องลำแขกไซ
* ↑ ไก่แจ้
หม่อมเจ้าประภากร
ร้องลำนางนาด
* จ้ำจี้
ทัด เปรียญ
ร้องลำลิ้นลากระทุ่ม
* กาดำ
แก้ว
ร้องลำจีนขิมเล็ก
* แมงมุม
หลวงประชุมบรรณสาร (พิณ)
ร้องลำมอญร้องไห้
* กะเกย
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ร้องลำตะนาว
* มดแดง
ทัด เปรียญ
ร้องลำพัดชา
* ตุ๊กแก
ทัด เปรียญ
ร้องลำสะสม
* กระต่าย
พระราชวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสุทัศน์นิภาธร
ร้องลำตะลุ่มโปง
* โพงพาง
หลวงประสิทธิ์อักษรสาร (เทศ)
ร้องลำลาวแคน
* เจ้าการะเกด
ทัด เปรียญ
ร้องลำม้าย่อง
* โมเย
แก้ว
ร้องลำจีนดาวดวงเดียว
* เท้งเต้ง
ทัด เปรียญ
ร้องลำล่องเรือ
* นกเขา
พระยาพินิจสารา (ทิม)
ร้องลำเทพชาตรี
* จันทร์เจ้า
ทัด เปรียญ
ร้องลำพราหมณ์ดีดน้ำเต้า
* ช้างพลาย
แก้ว
ร้องลำชมดงนอกสามชั้น
* จุ๊บแจง
หลวงประสิทธิ์อักษรสาร (เทศ)
ร้องลำล่องเรือพระนคร
* ดุเหว่า
แก้ว
ร้องลำเขมรใหญ่
* นกกระจาบ
ทัด เปรียญ
ร้องลำตะลุ่มโปง
* หนูหริ่ง
แก้ว
ร้องลำจีนขวัญอ่อน
* โอละเห่
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ร้องลำจีนต่อยหม้อ
* ลิงลม
ทัด เปรียญ
ร้องลำสมิงทองมอญ
* อิ่มก่อน
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ร้องลำสระบุหร่งนอก
* ซุ่มมรดี
ทัด เปรียญ
ร้องลำช้างประสานงา

บทอาขยาน บทหลัก ระดับประถมศึกษา
แมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟันผู้แต่ง: นายทัด เปรียญ

รักเมืองไทย

คัดเลือกโดยกรมวิชาการ


ดอกสร้อยสุภาษิต


เด็กน้อย
แมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟันผู้แต่ง: นายทัด เปรียญ

ตั้งไข่ล้มต้มไข่กิน

ร้องลำแขกบรเทศ

แมวเอ๋ยแมวเหมียวรูปร่างประเปรียวเป็นนักหนาร้องเรียกเหมียวเหมียวเดี๋ยวก็มาเคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู รู้จักเอารักเข้าต่อตั้งค่ำค่ำซ้ำนั่งระวังหนูควรนับว่ามันกตัญญูพอดูอย่างไว้ใส่ใจเอย ฯ
ผู้แต่ง:นายทัด เปรียญ | บทอาขยาน | กลอนดอกสร้อย

รักเมืองไทย (บทอาขยาน)
คนไทยนี้ดี เป็นพี่เป็นน้อง
เมืองไทยเมืองทอง เป็นของคนไทย
คนไทยเข้มแข็ง ร่วมแรงร่วมใจ
รักชาติยิ่งใหญ่ ไทยสามัคคี

ธงไทยไตรรงค์ เป็นธงสามสี
ทั้งสามสิ่งนี้ เป็นที่บูชา
สีแดงคือชาติ สีขาวศาสนา
น้ำเงินงามตา พระมหากษัตริย์ไทย

เรารักเพื่อนบ้าน ไม่รุกรานใคร
เมื่อยามมีภัย ร่วมใจป้องกัน
เรารักท้องถิ่น ทำกินแบ่งปัน
ถิ่นไทยเรานั้น ช่วยกันดูแล
รักเมืองไทย (เพลงปลุกใจ)
คำร้อง-ทำนอง: พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ
(สร้อย)
รักเมืองไทย ชูชาติไทย
ทะนุบำรุงให้รุ่งเรือง
สมเป็นเมืองของไทย
เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย
เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย
ไม่เคยอ่อนน้อมเราไม่ยอมแพ้ใคร
ไม่เคยอ่อนน้อมเราไม่ยอมแพ้ใคร
ศัตรูใจกล้ามาแต่ทิศใด
ถ้าข่มเหงไทย คงจะได้เห็นดี
(สร้อย)
เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย
เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย
เรารักเพื่อนบ้าน เราไม่รานรุกใคร
เรารักเพื่อนบ้าน เราไม่รานรุกใคร
แต่รักษาสิทธิ์ อิสระของไทย
ใครทำซ้ำใจ ไทยจะไม่ถอยเลย
(สร้อย)
เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย
เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย
ถ้าถูกข่มเหงเราไม่เกรงผู้ใด
ถ้าถูกข่มเหงเราไม่เกรงผู้ใด
ดังงูตัวนิดมีพิษเหลือใจ
เรารักเมืองไทย ยิ่งชีพเราเอย
(สร้อย)
เพลงปลุกใจ

บทอาขยาน บทหลัก ระดับประถมศึกษา
รักเมืองไทย
ดอกสร้อยสุภาษิต ไก่แจ้ผู้แต่ง: หม่อมเจ้าประภากร

รักษาป่า

คัดเลือกโดยกรมวิชาการ


ดอกสร้อยสุภาษิต


บทอาขยาน บทหลัก ระดับประถมศึกษา
นกเอี้ยงเลี้ยงควายเฒ่า
ดอกสร้อยสุภาษิตไก่แจ้ผู้แต่ง: หม่อมเจ้าประภากร

จ้ำจี้

ร้องลำนางนาค

ไก่เอ๋ยไก่แจ้ถึงยามขันขันแซ่กระชั้นเสียงโก่งคอเรื่อยร้องซ้องสำเนียงฟังเพียงบรรเลงวังเวงดัง ถ้าตัวเราเหล่านี้หมั่นนึกถึงคุณครูผู้ฝึกสอนสั่งไม่มากนักสักวันละสองครั้งคงตั้งแต่สุขทุกวันเอย ฯ
ผู้แต่ง:หม่อมเจ้าประภากร | บทอาขยาน | กลอนดอกสร้อย


รักษาป่า
นกเอ๋ยนกน้อยน้อย
บินล่องลอยเป็นสุขศรี
ขนขาวราวสําลี
อากาศดีไม่มีภัย
ทุกทิศเจ้าเที่ยวท่อง
ฟ้าสีทองอันสดใส
มีป่าพาสุขใจ
มีต้นไม้มีลําธาร
ผู้คนไม่มีโรค
นับเป็นโชคสุขสําราญ
อากาศไร้พิษสาร
สัตว์ชื่นบานดินชื่นใจ
คนสัตว์ได้พึ่งป่า
มารักษาป่าไม้ไทย
สิ้นป่าเหมือนสิ้นใจ
ช่วยปลูกใหม่ไว้ทดแทน

ในหนังสือเรียนภาษาไทย ชุดพื้นฐานภาษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เล่ม ๒ หน้า ๑๒๓
หมวดหมู่: กาพย์ยานี ๑๑


บทอาขยาน บทหลัก ระดับประถมศึกษา รักษาป่า
เด็กน้อยผู้แต่ง: ไม่ทราบ

วิชาหนาเจ้า

คัดเลือกโดยกรมวิชาการ

บทอาขยาน บทหลัก ระดับประถมศึกษา
ดอกสร้อยสุภาษิต
เด็กน้อยผู้แต่ง: ไม่ทราบ

แมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟัน

ร้องลำฝรั่งรำเท้า
เด็กเอ๋ยเด็กน้อยความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษาเมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชาเป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน ได้ประโยชน์หลายสถานเพราะการเรียน จงพากเพียรไปเถิดจะเกิดผล ถึงลำบากตรากตรำก็จำทน เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันเอย ฯ

วิชาหนาเจ้า
เกิดมาเป็นคน หนังสือเป็นต้น วิชาหนาเจ้า
ถ้าแม้นไม่รู้ อดสูอายเขา เพื่อนฝูงเยาะเย้า ว่าเง่าว่าโง่
ลางคนเกิดมา ไม่รู้วิชา เคอะอยู่จนโต
ไปเป็นข้าเขา เพราะเขาเง่าโง่ บ้างเป็นคนโซ เที่ยวขอก็มี
ถ้ารู้วิชา ประเสริฐหนักหนา ชูหน้าราศี
จะไปแห่งใด มีคนปราณี ยากไร้ไม่มี สวัสดีมงคล
อย่าเกียจคร้าน การเรียน เร่งอุตสาห์
มีวิชา เหมือนมีทรัพย์ อยู่นับแสน
จะตกถิ่น ฐานใด คงไม่แคลน
ถึงคับแค้น ก็พอยัง ประทังตน
อันความรู้ รู้กระจ่าง แต่อย่างเดียว
แต่ให้เชี่ยว ชาญเถิด จะเกิดผล
อาจจะชัก เชิดชู ฟูสกล
ถึงคนจน พงศ์ไพร่ คงได้ดี
เกิดเป็นชน ชาวสยาม ตามวิสัย
หนังสือไทย ก็ไม่รู้ ดูบัดสี
จะอับอาย ขายหน้า ทั้งตาปี
ถึงผู้ดี ก็คงด้อย ถอยตระกูล
จะต่ำเตี้ย เสียชื่อ ว่าโฉดช้า
จะชักพา ลาภยศ ให้เสื่อมสูญ
จะขายหน้า ญาติวงษ์ พงศ์ประยูร
จะเพิ่มพูน ติฉิน คำนินทา
หนึ่งหนังสือ หรือตำรับ ฉบับบท
เป็นของล้วน ควรจด จำศึกษา
บิดาปู่ สู้เสาะ สะสมมา
หวังให้บุตร นัดดา ได้ร่ำเรียน
จะได้ทราบ บาปบุญ ทั้งคุณโทษ
ปะบุตรโฉด ต่ำช้า ไม่พาเหียร
ให้สมดัง เจตนา ปู่ตาเพียร
เนิ่นจำเนียร เพียรพลัด กระจัดกระจาย
ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา
ปากเป็นเอกเหมือนเสกมนต์ให้คนเชื่อ ฉลาดเหลือวาจาปรีชาฉาน
จะกล่าวถ้อยร้อยคำไม่รำคาญ เป็นรากฐานเทิดตนพ้นลำเค็ญ
เลขเป็นโทโบราณท่านสั่งสอน เร่งสังวรเวี่ยไว้ใช่ว่าเล่น
การคำนวณควรชำนาญคูณหารเป็น ช่วยให้เด่นดีนักหนารู้ท่าคน
หนังสือเป็นตรีวิชาปัญญาเลิศ เรียนไปเถิดรู้ไว้ไม่ไร้ผล
ยามยากแสนแค้นคับไม่อับจน ได้เลี้ยงตนด้วยวิชาหาทรัพย์ทวี
ชั่วดีเป็นตราประทับไว้กับโลก ยามวิโยคชีพยับลับร่างหนี
ที่ศูนย์แท้ก็แต่ตัวส่วนชั่วดี คงเป็นที่ลือทั่วชั่วฟ้าดิน


ของท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา
จาก บทประพันธ์อธิบายสุภาษิต
ของ - สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส

๏ พฤษภกาสร............................อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง.........................สำคัญหมายในกายมี
๏ นรชาติวางวาย........................มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี...........................ประดับไว้ในโลกา

สยามานุสสติ
๏ ๏ สยามานุสติ ๏ ๏
พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖

๏ ใครรานใครรุกด้าว...............แดนไทย
ไทยรบจนสุดใจ.......................ขาดดิ้น
เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล................ยอมสละ สิ้นแล
เสียชีพไป่เสียสิ้น......................ชื่อก้องเกียรติงาม
๏ หากสยามยังอยู่ยั้ง.................ยืนยง
เราก็เหมือนอยู่คง......................ชีพด้วย
หากสยามพินาศลง....................ไทยอยู่ ได้ฤๅ
เราก็เหมือนมอดม้วย..................หมดสิ้นสกุลไทย
ตนเป็นที่พึ่งแก่ตน
เราเกิดมาทั้งทีชีวิตหนึ่ง อย่าหมายพึ่งผู้ใดให้เขาหยัน
ควรคะนึงพึ่งตนทนกัดฟัน คิดบากบั่นตั้งหน้ามานะนำ
กสิกิจพณิชยการงานมีเกียรติ อย่าหยามเหยียดพาลหาว่างานต่ำ
หรือจะชอบวิชาอุตสาหกรรม เชิญเลือกทำตามถนัดอย่าผลัดวัน
เอาดวงใจเป็นทุนหนุนนำหน้า เอาปัญญาเป็นแรงมุ่งแข่งขัน
เอาความเพียรเป็นยานประสานกัน ผลจะบรรลุสู่ประตูชัย
เงินและทองกองอยู่ประตูหน้า คอยเปิดอ้ายิ้มรับไม่ขับไส
ทรัพย์ในดินสินในน้ำออกคล่ำไป แหลมทองไทยพร้อมจะช่วยอำนวยเอย

ของ เพิ่ม สวัสดิ์วรรณกิจ
จาก บทประพันธ์อธิบายสุภาษิต
ตนเป็นที่พึ่งแก่ตน
บทอาขยาน บทหลัก ระดับประถมศึกษา วิชาเหมือนสินค้าผู้แต่ง: เจษฎาจารย์ ฟ.ฮีแลร์

ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ

คัดเลือกโดยกรมวิชาการ จากดรุณศึกษา เล่ม ๓

วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา จงตั้งเอากายเจ้า เป็นสำเภาอันโสภา ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ นิ้วเป็นสายระนาง สองเท้าต่างสมอใหญ่ ปากเป็นนายงานไป อัชฌาสัยเป็นเสบียง สติเป็นหางเสือ ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง ถือไว้อย่าให้เอียง ตัดแล่นเลี่ยงข้ามคงคา ปัญญาเป็นกล้องแก้ว ส่องดูแถวแนวหินผา เจ้าจงเอาหูตา เป็นล้าต้าฟังดูลม ขึ้เกียจคือปลาร้าย จะทำลายให้เรือจม เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมให้จมไป จึงจะได้สินค้ามา คือวิชาอันพิสมัย จงหมั่นมั่นหมายใจ อย่าได้คร้านการวิชา .
ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ

บทอาขยาน บทหลัก ระดับประถมศึกษา


วิชาเหมือนสินค้า
ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญผู้แต่ง: พระยาอุปกิตศิลปสาร

ผู้ชนะ

คัดเลือกโดยกรมวิชาการ
โคลงนำ โคลงสี่สุภาพ
๏ มวลมนุษย์ผู้เปรื่อง
ปรีชา เชี่ยวแฮ
เพราะใคร่ใฝ่ศึกษา
สิ่งรู้
รู้กิจผิดชอบหา
เหตุสอด ส่องนา
นี่แหละบุคคลผู้
เพียบด้วยความเจริญ
กาพย์ยานี ๑๑
มวลผู้ชูปรีชา เสาะวิทยาไม่ห่างเหิน ผิดชอบกอบไม่เกิน รู้ดำเนินตามเหตุผล ชื่อว่าปรีชาดี ผิดชอบมีพิจารณ์ยล ผู้นั้นจักพลันดล พิพัฒน์พ้นจักพรรณนา ควรเราผู้เยาว์วัย จงใฝ่ใจการศึกษา อบรมบ่มวิทยา ปรุงปรีชาให้เชี่ยวชาญ ขั้นนี้จักชี้ว่า มีปัญญาไม่สมฐาน ต้องหัดดัดสันดาน กอบวิจารณ์ใช้ปัญญา สังเกตตามเหตุผล ผิดชอบยลด้วยปรีชา ดังนี้จึงชี้ว่า มีปัญญาอย่างเพียบเพ็ญ มีดพร้าถาหินให้ มีดคมได้มิยากเย็น ถ้าใช้มีดไม่เป็น ฟันคนเล่นโทษมหันต์ เมื่อใดใช้มีดเป็น กอบกิจเห็นคุณอนันต์ ปัญญากล่าวมานั้น เปรียบได้กันกับศัสตรา
ผู้แต่ง:พระยาอุปกิตศิลปสาร

ผู้ชนะ
เมื่อทำการสิ่งใดด้วยใจรัก................................ถึงงานหนักก็เบาลงแล้วครึ่งหนึ่ง
ด้วยใจรักเป็นแรงที่เร้ารึง.................................ให้มุ่งมั่นฝันถึงซึ่งปลายทาง
เมื่อทำการสิ่งใดใจบากบั่น...............................ไม่ไหวหวั่นอุปสรรคเป็นขวากขวาง
ถึงเหนื่อยยากพากเพียรไม่ละวาง......................งานทุกอย่างเสร็จเพราะกล้าพยายาม
เมื่อทำการสิ่งใดใจจดจ่อ.................................คอยเติมต่อตั้งจิตไม่คิดขาม
ทำด้วยใจเป็นชีวิตคอยติดตาม..........................บังเกิดผลงอกงามตามต้องการ
เมื่อทำการสิ่งใดใคร่ครวญคิด...........................เห็นถูกผิดแก้ไขให้พ้นผ่าน
ใช้สมองตรองตริคิดพิจารณ์.............................ปรากฎงานก้าวไกลไม่ลำเค็ญ
ความสำเร็จจะว่าใกล้ก็ใช่ที่..............................จะว่าไกลฤาก็มีอยู่ให้เห็น
ถ้าจริงจังตั้งใจไม่ยากเย็น................................แล้วจะเป็นผู้ชนะตลอดกาล

เป็นมนุษย์หรือเป็นคน (พุทธทาสภิกขุ)

เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง
เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน
ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน
ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา
ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ
ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา
เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา
เปรมปรีดา คืนวัน ศุขสันติ์จริง
ใจสกปรก มึดมัว และร้อนเร่า
ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง
เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง
แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย
คิดดูเถิด ถ้าใครไม่อยากตก
จงรีบยก ใจตน รีบขวนขวาย
ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย
ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือนเอยฯ

พุทธทาสภิกขุ.


โคลงโลกนิติ

โคลงโลกนิติ




ศิลาจารึกวัดพระเชตุพนผู้แต่ง: สมเด็จฯ กรมพระยาเดชาดิศร


๑๐๑ - ๒๐๐


บทอาขยาน บทหลัก ระดับประถมศึกษา โคลงโลกนิติ บทที่ ๖๘, ๑๑๔, ๕๕


เป็นมนุษย์หรือเป็นคน
ผู้แต่ง: สมเด็จฯ กรมพระยาเดชาดิศร




บทรอง
สถานศึกษาเลือกใช้โดยให้ตรงกับหลักเกณฑ์การคัดเลือกบทอาขยาน บทรองต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่แนะนำโดย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ
ระดับประถมศึกษา
บทอาขยาน
ผู้แต่ง
หมายเหตุ
* กาเหว่า
มีแต่โบราณ เพลงกล่อมเด็กภาคกลาง
บทกลอนกล่อมเด็ก ฉบับหอสมุดวชิรญาณ
* เจ้าดวงมาลา
มีแต่โบราณ เพลงพื้นบ้านภาคใต้
บทเชิญดอกไม้
* ไทยรวมกำลังตั้งมั่น
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระร่วง
* ปากใดเกินบ่มีความฮู้

ประมวลธรรมยอดคำสอน ภาษาไทยกลางและภาษาไทยอีสาน
* ฝนตกแดดออก
ฐะปะนีย์ นาครทรรพ

* เพลงชาติ
นภาลัย สุวรรณธาดา

* เพลงยาวเจ้าอิศรญาณ
อิศรญาณ
สุภาษิตอิศรญาณ
* มาลี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เงาะป่า
* อนึ่งเวลากิน

วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ ประเภทคำสอน
* อย่านั่งใกล้ถุงเงินคำ

วรรณกรรมล้านนา ปู่เจ้าสอนหลาน


กาเหว่า
เจ้านกกาเหว่าเอย ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก
แม่กาก็หลงรัก คิดว่าลูกในอุทร
คาบเอาข้าวมาเผื่อ คาบเอาเหยื่อมาป้อน
ถนอมไว้ในรังนอน ซ่อนเหยื่อมาให้กิน
ปีกเจ้ายังอ่อนคล้อแคล ท้อแท้จะสอนบิน
แม่กาพาไปกิน ที่ปากน้ำพระคงคา
ตีนเจ้าเหยียบสาหร่าย ปากก็ไซร้หาปลา
กินกุ้งแลกินกั้ง กินหอยกระพังแมงดา
กินแล้วก็โผมา จับที่ต้นฟ้าโพธิ์ทอง
ยังมีนายพราน เที่ยวเยี่ยมเยี่ยมมองมอง
ยกปืนขึ้นส่อง จ้องเอาแม่กาดำ
อีกตัวหนึ่งว่าจะต้ม อีกตัวหนึ่งว่าจะยำ
กินนางแม่กาดำ ค่ำวันนี้อุแม่นา

อนึ่งเวลากิน
ปากเป็นเอกเหมือนเสกมนต์ให้คนเชื่อ ฉลาดเหลือปรีชาวาจาฉาน จะกล่าวถ้อยร้อยคำไม่รำคาญ เป็นรากฐานเทิดตนพ้นลำเค็ญ เลขเป็นโทโบราณท่านสั่งสอน เร็งสังวรเวี่ยไว้ใช่ว่าเล่น การคำนวณควรชำนาญคูณหารเป็น ช่วยให้เด่นดีนักหนารู้ท่าคน หนังสือเป็นตรีวิชาปัญญาเลิศ เรียนไปเถิดไม่ไร้ผล ยามยากแสนแค้นคับไม่อับจน ได้เลี้ยงตนด้วยวิชาหาทรัพย์ทวี ชั่วดีเป็นตราประทับไว้กับโลก ยามวิโยคชีพยับลับร่างหนี ที่ศูนย์ก็แต่ตัวส่วนชั่วดี คงเป็นที่ลือทั่วชั่วฟ้าดิน

อย่านั่งใกล้ถุงเงินคำ
เด็กเอ๋ย เด็กน้อย ความรู้ เรายังด้อย เร่งศึกษา เมื่อเติบใหญ่ เราจะได้ มีวิชา เป็นเครื่องหา เลี้ยงชีพ สำหรับตน ได้ประโยชน์ หลายสถาน เพราะการเรียน จงพากเพียร ไปเถิด จะเกิดผล ถึงลำบาก ตรากตรำ ก็จำทน เกิดเป็นคน ควรหมั่น ขยันเอย....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น